แมงมุมเรียกทรัพย์  

 
คาถาที่ใช้   
 
ท่องนะโม 3 จบ        แล้วต่อด้วย
 
“สุวันนะระชะตัง        มะหาสุวันนะ        ราชะตัง
 อังคะตะเศรษฐี        มหาอังคะตะ        เศรษฐี
 มิคะตะเศรษฐี          มะหามิคะตะ        เศรษฐี
 ปุริเศษสาวาอัตถีวา  พราหมณ์มะณีวา  มะอะอุ มานิมามา” 
 
เมื่อครั้งหลวงปู่สุภาเป็นพระหนุ่ม ได้เดินทางไปนมัสการหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ขอศึกษาเล่าเรียนวิชา หลวงปู่ศุขได้เมตตาสั่งสอนให้ตั้งแต่การตั้งธาตุเรียนวิปัสสนากรรมฐาน การเข้าสู่สมาธิและกษิณต่างๆ ซึ่งหลวงปู่สุภาได้รับการถ่ายทอดไว้ทั้งหมด หลวงปู่ศุขได้ทดสอบและแก้ไขเพิ่มเติมให้จนครบหมดทุกอย่างตามขบวนการ และท่านได้มอบสุดยอดวิชาให้ 2 อย่างด้วยกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ แมงมุมมหาลาภ
หลวงปู่ศุข ได้มอบตำราให้ และได้บอกกับหลวงปู่สุภาว่า “แมงมุมเป็นสัตว์สะอาด อาหารของมันเป็นอาหารที่หมดอายุแล้ว แมงมุมไม่ใช่นักล่าที่แสวงหาชีวิตของผู้อื่นกินเป็นอาหาร เหมือนสัตว์อื่น เพราะแมงมุมจะชักใยดักเหยื่อไว้ ในที่ๆเหยื่อจะมองเห็นได้ ไม่ใช่ว่าซ่อนหรือดักไว้ในที่ลับตา”
แมงมุมจะคอยเฝ้าเหยื่อที่อยู่ปลายใยของตัวเอง จะไม่เห็นแมงมุมวิ่งไปรอบหรือไล่เหยื่อให้มาติดใยที่ปลายใยของตนเอง แต่เหยื่อจะเข้ามาติดใยเองเพราะหมดบุญหรือถีงที่ตาย ซี่งเมื่อเข้ามาติดในใยแมงมุมแล้วนั่นคืออาหารที่แมงมุมจะกินเพื่อต่อชีวิต แมงมุมจะกินของเหลวในตัว ซากที่เหลือจะทิ้่งลงมาด้านล่างเพื่อเป็นอาหารของมดและแมลงเล็กๆด้านล่าง ไม่เสียเปล่าประโยชน์
 
พ่อค้าแม่ค้าที่เปิดร้านค้าขายหรือแผงลอยย่อมเปิดเพื่อหาลูกค้า จัดวางสินค้าให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเพื่อให้เตะตาลูกค้า เหมือนกับแมงมุมชักใยล่อเหยื่อให้เข้ามาติดกับ แผงลอยหรือร้านก็เช่นเดียวกับใยแมงมุม คืออยู่ในที่เปิดเผยเห็นได้ชัดเจน แม้จะมีร้านอยู่มาก เหมือนแมงมุมวางใยก็จะมีแมลงหรือลูกค้ามาติดใย
การสร้างรูปแมงมุมก็คือการสร้างสิ่งที่ดึงดูดลูกค้ามาเข้าร้านนั่นเอง แมงมุมมีสัตว์มาติดใยให้ได้อิ่มหนำสำราญ ทั้งๆที่ไม่ต้องออกไปล่าเหยื่อ ก็เหมือนกับพ่อค้าแม่ค้าเปิดร้านขายของเพื่อให้ลูกค้ามาซื้อ ไม่ต้องออกไปเร่ขาย เช่นเดียวกับแมงมุมนั่นคือหัวใจของการสร้างแมงมุม ของสำนักวัดปากคลองมะขามเฒ่า ที่จะมอบให้กับผู้ที่มีวาสนาบารมีเท่านั้น
ขั้นตอนการสร้างคือการสร้างตัวแมงมุมด้วยวัสดุจากธรรมชาติ ส่วนใหญ่แล้วจะใช้ตาไม้ หรือ ปุ่มไม้ที่ลวดลายตามธรรมชาติมากลีงให้เป็นรูปตัวแมงมุมชิ้นหนี่ง และส่วนหัวชิ้นหนี่งขนาดตามแต่จะต้องการ
 
เมื่อได้ส่วนหัวและลำตัวแล้ว จึงภาวนาเรียกรูปและนามตามที่ปรากฏในตำรับที่หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ได้ประสิทธิมา เมื่อเรียกรูปและนามแล้วจึงต่อส่วนหัวและส่วนลำตัวเข้าด้วยกัน จากนั้นจึงต่อขาของแมงมุม
การต่อขาของแมงมุมต้องภาวนาคาถากำกับไปพร้อมกับการต่อ ซี่งขาส่วนนี้ใช้เหล็กทาสีดำแทนขา โดยงอให้เป็นลักษณะขาแมงมุมตามธรรมชาติ เมื่อต่อขาครบแล้วจึงภาวนาเรียกสูตรและนามตามตำรับให้ครบถ้วน
 
หลวงปู่ศุข ย้ำว่าหากทำได้ถีงที่สุดแล้วเวลาหลับตาภาวนาจะเห็นว่าแมงมุมเคลื่อนไหวได้ในนิมิตร
เมื่อเรียกสูตรและนามแมงมุมครบแล้วจีงนำพลอยสีแดง มาติดเข้าตรงที่เป็นนัยน์ตาของแมงมุม ทำพิธีเปิดตาของแมงมุมด้วยการใช้ดินสอดำทำพิธีเบิกตาให้มีพลัง เป็นอันเสร็จขั้นตอนการทำตัวแมงมุม
ต่อไปคือการชักใย ให้หาเชือกตามขนาดของตัวแมงมุม เชือกนั้นนำมาปลุกเสกทั้งขดเพื่อให้เกิดธาตุทั้ง 4 ขึ้น จากนั้นนำมาขดกันเป็นชั้นๆ แบบการชักใยของแมงมุม โดยเริ่มจากส่วนกลางใย อันเป็นจุดศูนย์รวมแล้วภาวนาคาถาเป็นชั้นๆไป ขึ้นชิ้นใหม่ก็ภาวนาไปแต่ละขั้นตอน เรียกว่า “คาถาชักใยแมงมุม” 
การภาวนาคาถาชักใยนั้นสำคัญเพราะ ลาภ หรือ เหยื่อ จะมาหรือไม่ อยู่ที่ใยที่ชักนี่เอง ใยที่ชักได้จะติดตรีงไว้บนแผ่นกระดานหรือไม้อัดเพื่อให้คงที่ จากนั้นให้นำตัวแมงมุมมาวางลงบนใยแล้วภาวนาคาถามหาลาภ เพื่อให้เกิดความดึงดูดกัน และกัน เกิดพลังดูดลาภเข้ามา
ขั้นตอนสุดท้ายคือลงอักขระที่พื้นของแผ่นกระดานเพื่อเสริมประสิทธิภาพทีละตัวๆ เขียนตัวหนึ่งก็เรียกสูตรเรียกนามครั้งหนึ่ง จนกว่าจะครบทุกตัวเป็นอันเสร็จพิธี
เมื่อมอบให้ใครไปก็ให้นำไปติดไว้ ในที่ๆคนจะมองเห็นได้ง่ายๆ เหนือพื้น เพื่อให้แมงมุมส่งกระแสแห่งความดึงดูดไปสู่ทุกสารทิศ เมื่อพลังอำนาจแผ่ออกไปทางใด ก็จะมีลูกค้าเข้าร้านอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย
 
ผู้ที่ได้รับไปรุ่นแรกๆ ที่หลวงปู่สุภาทำแจกด้วยเมตตานั้น หลายรายเปลี่ยนฐานะเป็นเศรษฐี ทุกวันนี้ก็ยังอุปปัฏฐากหลวงปู่สุภาอยู่ด้วยความมั่นคง และมักจะบอกลูกหลานอยู่เสมอว่า ที่มีฐานะอยู่ในเวลานี้ได้ก็เพราะแมงมุมของหลวงปู่สุภา หลายรายก็บอกตรงกันว่าการค้าเริ่มดีวันดีคืนจนเห็นได้ถนัด มิได้คิดไปเอง หรืองมงายแต่อย่างใด ทุกวันนี้หลวงปู่สุภา ก็ยังสร้างแมงมุม แต่ทำได้ช้า จำนวนผู้อยากได้มีมากขึ้น จนบางครั้งต้องรอกันนาน แต่บอกได้ว่า หากได้ไปแล้วจะเห็นผลทันตาทีเดียว